แบบรายงานวิธีการปฏิบัติที่เป็นเลิศ (Best Practice) ปีการศึกษา 2567 เรื่อง นักสืบน้อย ย้อนรอยภาษาถิ่น สืบสานภาษาเยอ โดย โรงเรียนบ้านหนองระเวียง สพป.มหาสารคาม เขต 2

แบบรายงานวิธีการปฏิบัติที่เป็นเลิศ (Best Practice)

ชื่อผลงาน “ นักสืบน้อย ย้อนรอยภาษาถิ่น สืบสานภาษาเยอ
ชื่อเจ้าของผลงาน นางสาวภัทรา ทองสุทธิ์ และนางสาวนริศรา ทองดี
หน่วยงาน โรงเรียนบ้านหนองระเวียง
สังกัด สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษามหาสารคาม เขต 2

  1. ความสำคัญของผลงานหรือนวัตกรรมที่นำเสนอ
    สังคมปัจจุบันเป็นโลกยุคข้อมูลข่าวสาร ความเจริญก้าวหน้าทางเทคโนโลยี และโลกของตลาด
    เสรีที่ผู้คนส่วนใหญ่ให้ความสำคัญกับความมั่งคั่งทางเศรษฐกิจ การใช้ชีวิตแบบทันสมัยที่มีความเป็น
    สากลทั้งภาษา การแต่งกาย อาหารการกิน ภาพยนตร์ ดนตรี เป็นยุคที่ผู้คนส่วนใหญ่หลงใหลกับโลก
    ตะวันตก แม้จะมีสไตล์เกาหลีและญี่ปุ่น ซึ่งล้ำหน้าและทันสมัย ยุคที่ผู้คน (ส่วนหนึ่ง) นิยมคนเก่ง คน
    ฉลาด ทันสมัย ทันเหตุการณ์ รู้เท่าทันเทคโนโลยี ยุคที่เด็กไทยเห็นและหลงใหลความเป็น “ปัจเจกชน”
    มากกว่าจิตสาธารณะ ความคิดของผู้คนในความเป็นสากลยุคโลกาภิวัตน์ส่งผลกระทบต่อ “ค่านิยมความ
    เป็นไทย” อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ วัฒนธรรมไทยภูมิปัญญาไทยนับวันยิ่งจะถูกเมินจากเยาวชนมากยิ่งขึ้น
    ทุกวันนี้ “ประวัติศาสตร์” สำหรับเยาวชนไทย จึงอาจเป็นเพียงเรื่องราวในอดีตที่เต็มไปด้วย
    พ.ศ. สิ่งของเก่าแก่ ผู้คนที่ล้มหายตายไปหมดแล้ว เหตุการณ์ที่ต้องจดจำและจำเรียนเพื่อ “สอบ” ตาม
    เกณฑ์ในระบบการศึกษาเท่านั้น แม้ว่าจะมีผู้เรียนบางคนชอบ และสนุกสนานที่จะฟังเกร็ดประวัติศาสตร์
    ได้เรียนรู้อดีต มีความภาคภูมิใจในชาติและบรรพบุรุษ แต่อย่างไรก็ตามยังคงมีคำถามเสมอว่าจะเรียน
    ประวัติศาสตร์ไปทำไม ประวัติศาสตร์มีประโยชน์อย่างไรในโลกยุคโลกาภิวัตน์ จะใช้ประวัติศาสตร์ไป
    ประกอบอาชีพอะไร ที่สำคัญยังมีคำถามที่เป็นความคาดหวังของสังคม “หลักสูตรประวัติศาสตร์ควรเป็น
    อย่างไร เยาวชนไทยจึงจะรัก และภาคภูมิใจในความเป็นชาติไทย”
    นอกจากการเรียนประวัติศาสตร์จะช่วยให้มนุษย์เรียนรู้อดีตเข้าใจปัจจุบันแล้วยังช่วยให้รู้
    รากเหง้าของตนเองเข้าใจและภูมิใจในชาติตนเองเข้าใจในที่มาของชุมชนและสภาพแวดล้อมของชุมชน
    ในสังคม ความดีงามของบรรพบุรุษและเป็นบทเรียนที่มีค่าสำหรับเป็นแนวทางปฏิบัติ (สำนัก
    คณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน) อย่างไรก็ดีแม้ว่าวิชาประวัติศาสตร์จะเป็นวิชาหรือ
    ศาสตร์ที่สำคัญแต่ในการประเมินผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนพบว่า ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนวิชา
    ประวัติศาสตร์ลดลงและนักเรียนไม่ให้ความสำคัญในวิชาประวัติศาสตร์
    ครูผู้สอนจึงได้นำเอาประวัติศาสตร์ท้องถิ่น เกี่ยวกับประวัติศาสตร์เยอ ไม่ว่าจะเป็นแหล่งเรียนรู้
    ในท้องถิ่น การใช้ภาษาในชุมชน รวมทั้งที่มาของประวัติศาสตร์เยอเข้ามาใช้ในการสอนวิชา
    ประวัติศาสตร์เพื่อให้นักเรียนได้ตระหนักและให้ความสำคัญกับวิชาประวัติศาสตร์มากขึ้น โดยให้ผู้เรียน
    ได้ลงพื้นที่จริงเพื่อศึกษาประวัติศาสตร์เยอและการใช้ภาษาเยอในชุมชน
  1. จุดประสงค์และเป้าหมายของการดำเนินงาน
    2.1 เพื่อพัฒนากิจกรรมการเรียนรู้เรื่องการศึกษาประวัติศาสตร์ท้องถิ่น ภาษาถิ่น (ภาษาเยอ)
    โดยใช้ชุมชนเป็นฐานการเรียนรู้
    2.2 เพื่อส่งเสริมให้นักเรียนมีทักษะในการศึกษาค้นคว้าเรื่องประวัติศาสตร์ท้องถิ่น ภาษาถิ่น
    (สืบสานภาษาเยอ)
    2.3 เพื่อส่งเสริมให้ผู้เรียนเห็นคุณค่า และเกิดความตระหนักที่จะร่วมกันอนุรักษ์ภาษาถิ่น
    ในชุมชน (ภาษาเยอ) สืบต่อไป

นักสืบน้อย ย้อนรอยภาษาถิ่น สืบสานภาษาเย่อ แบบรายงานวิธีการปฏิบัติที่เป็นเลิศ ปีการศึกษา 2567

ในยุคที่โลกาภิวัตน์เข้ามามีบทบาทสำคัญต่อการดำรงชีวิตของผู้คนในสังคมไทย ภาษาถิ่นซึ่งเป็นมรดกทางวัฒนธรรมที่มีคุณค่าอันยิ่งใหญ่กำลังเผชิญกับความท้าทายในการสืบทอดสู่คนรุ่นใหม่ โครงการ “นักสืบน้อย ย้อนรอยภาษาถิ่น สืบสานภาษาเย่อ” จึงเกิดขึ้นเพื่อตอบสนองต่อความจำเป็นเร่งด่วนในการอนุรักษ์และสืบทอดภาษาเย่อซึ่งเป็นภาษาถิ่นของชาวอีสานที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว

ภาษาเย่อหรือที่เรียกอีกอย่างหนึ่งว่าภาษาไทยอีสานเป็นภาษาที่มีรากฐานมาจากภาษาลาว และได้รับอิทธิพลจากภาษาไทยกลางภาษาเขมรและภาষาอื่นๆ ในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ความหลากหลายทางภาษาศาสตร์ของภาษาเย่อสะท้อนให้เห็นถึงประวัติศาสตร์การย้ายถิ่นของกลุมชาติพันธุ์และการแลกเปลี่ยนทางวัฒนธรรมที่เกิดขึ้นในช่วงเวลาหลายศตวรรษ

โครงการนี้ได้รับการออกแบบมาเพื่อให้นักเรียนในระดับประถมศึกษาและมัธยมศึกษาได้เรียนรู้และเข้าใจถึงความสำคัญของภาษาถิ่นผ่านกิจกรรมที่หลากหลายและน่าสนใจ การใช้แนวคิด “นักสืบน้อย” ช่วยกระตุ้นให้นักเรียนเกิดความอยากรู้อยากเห็นและมีส่วนร่วมในการค้นหาข้อมูลเกี่ยวกับภาษาเย่ออย่างแข็งขัน

วัตถุประสงค์ของโครงการ

โครงการ “นักสืบน้อย ย้อนรอยภาษาถิ่น สืบสานภาษาเย่อ” ได้กำหนดวัตถุประสงค์หลักไว้ 5 ประการเพื่อให้การดำเนินงานมีทิศทางที่ชัดเจนและสามารถวัดผลได้อย่างเป็นรูปธรรม วัตถุประสงค์แรกคือการสร้างความตรัวจิตและความภาคภูมิใจในภาษาถิ่นของตนเองให้แก่นักเรียน ซึ่งถือเป็นรากฐานสำคัญในการอนุรักษ์ภาษาให้คงอยู่ต่อไป

วัตถุประสงค์ที่สองมุ่งเน้นการพัฒนาทักษะการสื่อสารในภาษาเย่อให้แก่นักเรียน โดยเฉพาะการฟัง การพูด การอ่าน และการเขียนที่เหมาะสมกับวัยและระดับการศึกษา การพัฒนาทักษะเหล่านี้จะช่วยให้นักเรียนสามารถใช้ภาษาเย่อในการสื่อสารในชีวิตประจำวันได้อย่างมั่นใจ

วัตถุประสงค์ที่สามคือการส่งเสริมให้นักเรียนได้เรียนรู้เกี่ยวกับประวัติศาสตร์และวัฒนธรรมที่เกี่ยวข้องกับภาษาเย่อ การเข้าใจบริบททางประวัติศาสตร์และวัฒนธรรมจะทำให้นักเรียนเห็นคุณค่าและความสำคัญของภาษาถิ่นได้มากยิ่งขึ้น

วัตถุประสงค์ที่สี่มุ่งหวังให้นักเรียนสามารถเก็บรวบรวมและบันทึกข้อมูลเกี่ยวกับภาษาเย่อได้อย่างเป็นระบบ ทักษะการวิจัยและการจัดเก็บข้อมูลเหล่านี้จะเป็นประโยชน์ต่อการอนุรักษ์ภาษาในระยะยาว

วัตถุประสงค์สุดท้ายคือการสร้างเครือข่ายการเรียนรู้ระหว่างนักเรียน ครู ผู้ปกครอง และชุมชน เพื่อให้การสืบทอดภาษาเย่อเป็นความรับผิดชอบร่วมกันของทุกภาคส่วนในสังคม

ความสำคัญของภาษาเย่อในบริบทวัฒนธรรมไทย

ภาษาเย่อมีบทบาทสำคัญในการสะท้อนอัตลักษณ์ทางวัฒนธรรมของชาวอีสานและเป็นสื่อกลางในการถ่ายทอดภูมิปัญญาท้องถิ่นจากรุ่นสู่รุ่น คำศัพท์ในภาษาเย่อหลายคำมีความเฉพาะเจาะจงที่ไม่สามารถแปลเป็นภาษาอื่นได้อย่างตรงไปตรงมา เนื่องจากมีการผูกพันกับวิถีชีวิต ความเชื่อ และประเพณีของชุมชนอย่างแยกไม่ออก

ภาษาเย่อเป็นภาษาที่มีระบบเสียงที่ซับซ้อนและมีความหลากหลายในด้านสำเนียงขึ้นอยู่กับพื้นที่ทางภูมิศาสตร์ การศึกษาเกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงของเสียงในภาษาเย่อจากอดีตสู่ปัจจุบันสามารถให้ข้อมูลสำคัญเกี่ยวกับการเคลื่อนย้ายของประชากรและการเปลี่ยนแปลงทางสังคมในภูมิภาคอีสาน

นอกจากนี้ภาษาเย่อยังเป็นพาหนะสำคัญในการสืบทอดวรรณกรรมพื้นบ้าน เช่น นิทานพื้นบ้าน เพลงพื้นบ้าน และคำสอนของปู่ย่าตายาย วรรณกรรมเหล่านี้ไม่เพียงแต่มีคุณค่าทางศิลปะเท่านั้น แต่ยังเป็นแหล่งเรียนรู้เกี่ยวกับวิธีการดำเนินชีวิต ค่านิยม และแนวคิดในการแก้ไขปัญหาของบรรพบุรุษ

ความหลากหลายของคำศัพท์ที่เกี่ยวข้องกับการเกษตรกรรมในภาษาเย่อสะท้อนให้เห็นถึงความสำคัญของอาชีพเกษตรกรรมในชีวิตของชาวอีสาน คำศัพท์เหล่านี้มีความละเอียดและเฉพาะเจาะจงมาก ตัวอย่างเช่น การเรียกชื่อข้าวในแต่ละช่วงวัยการเจริญเติบโต การเรียกชื่อเครื่องมือการเกษตรแต่ละประเภท และการเรียกชื่อสภาพอากาศที่เกี่ยวข้องกับการทำนา

ภาษาเย่อยังมีระบบการเรียกขานที่สะท้อนถึงโครงสร้างทางสังคมและความสัมพันธ์ระหว่างบุคคลในครอบครัวและชุมchน การเรียกขานที่แตกต่างกันไปตามอายุ เพศ และสถานะทางสังคมช่วยรักษาความสมดุลและความเป็นระเบียบในสังคมไทยแบบดั้งเดิม

กิจกรรมการเรียนรู้ภาษาเย่อผ่านการสืบสวน

แนวทางการเรียนรู้แบบ “นักสืบน้อย” ได้รับการปรับใช้อย่างสร้างสรรค์เพื่อให้นักเรียนได้สำรวจและค้นพบความน่าสนใจของภาษาเย่อด้วยตนเอง กิจกรรมแรกที่ได้รับความนิยมคือ “การสืบสวนคำศัพท์ที่หายไป” ซึ่งนักเรียนจะได้รับมอบหมายให้ไปสัมภาษณ์ผู้สูงอายุในชุมชนเพื่อรวบรวมคำศัพท์ภาษาเย่อที่ไม่ค่อยได้ใช้ในปัจจุบัน

กิจกรรม “ถอดรหัสปริศนาภาษาเย่อ” เป็นอีกกิจกรรมหนึ่งที่ช่วยพัฒนาทักษะการคิดวิเคราะห์และความเข้าใจในโครงสร้างของภาษา นักเรียนจะได้รับปริศนา ทำนองคลองจอง หรือสุภาษิตในภาษาเย่อมาไขความหมาย และอธิบายบริบททางวัฒนธรรมที่เกี่ยวข้อง

การสร้าง “แผนที่ภาษาเย่อ” เป็นกิจกรรมที่ช่วยให้นักเรียนเข้าใจถึงการแพร่กระจายของภาษาในพื้นที่ต่างๆ นักเรียนจะได้สำรวจสำเนียงและคำศัพท์ที่แตกต่างกันในแต่ละหมู่บ้านหรือตำบล จากนั้นนำข้อมูลมาสร้างเป็นแผนที่ที่แสดงให้เห็นถึงความหลากหลายทางภาษาศาสตร์

กิจกรรม “การสืบหาต้นตอของคำศัพท์” ช่วยให้นักเรียนเข้าใจถึงประวัติศาสตร์และวิวัฒนาการของภาษา นักเรียนจะได้เรียนรู้เกี่ยวกับที่มาของคำศัพท์ว่าได้รับอิทธิพลมาจากภาษาใดบ้าง และมีการเปลี่ยนแปลงความหมายอย่างไรตลอดช่วงเวลาที่ผ่านมา

การจัดทำ “พจนานุกรมภาพภาษาเย่อ” เป็นโครงงานระยะยาวที่ให้นักเรียนได้ร่วมกันรวบรวมคำศัพท์ พร้อมทั้งวาดรูปประกอบและอธิบายความหมาย โครงงานนี้ไม่เพียงแต่ช่วยในการอนุรักษ์ภาษาเท่านั้น แต่ยังพัฒนาความสามารถด้านศิลปะและการเขียนของนักเรียนอีกด้วย

ระบบการประเมินผลและการติดตามความก้าวหน้า

การประเมินผลในโครงการนี้ได้รับการออกแบบให้มีความหลากหลายและสอดคล้องกับลักษณะของการเรียนรู้ภาษา การประเมินไม่ได้เน้นเพียงการทดสอบด้วยข้อสอบเท่านั้น แต่ยังรวมถึงการประเมินจากผลงานและการปฏิบัติจริง การสังเกตพฤติกรรมการเรียนรู้ และการประเมินตนเองของนักเรียน

เครื่องมือการประเมินหลักประกอบด้วยแฟ้มสะสมผลงาน (Portfolio) ที่รวบรวมชิ้นงานของนักเรียนตลอดภาคการศึกษา การนำเสนอโครงงานการค้นคว้าเกี่ยวกับภาษาเย่อ และการแสดงความสามารถในการใช้ภาษาผ่านกิจกรรมต่างๆ เช่น การเล่านิทานพื้นบ้าน การร้องเพลงพื้นบ้าน หรือการสนทนาในชีวิตประจำวัน

การใช้เทคโนโลยีในการประเมินผลเป็นอีกหนึ่งนวัตกรรมของโครงการนี้ นักเรียนสามารถบันทึกเสียงการพูดภาษาเย่อของตนเองและนำไปเปรียบเทียบกับเสียงมาตรฐาน หรือใช้แอปพลิเคชันในการฝึกการออกเสียงและการจดจำคำศัพท์

ระบบการติดตามความก้าวหน้าได้รับการพัฒนาให้สามารถติดตามพัฒนาการของนักเรียนทั้งในระยะสั้นและระยะยาว การจัดทำกราฟแสดงความก้าวหน้าในการเรียนรู้คำศัพท์ใหม่ การพัฒนาการในการออกเสียง และการเพิ่มขึ้นของความมั่นใจในการใช้ภาษาช่วยให้ครูและนักเรียนสามารถปรับปรุงวิธีการเรียนรู้ให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น

การประเมินผลแบบ 360 องศาที่รวมความเห็นจากครู เพื่อน ผู้ปกครอง และชุมชนช่วยให้ได้ข้อมูลที่ครอบคลุมเกี่ยวกับความสามารถของนักเรียนในการใช้ภาษาเย่อในสถานการณ์ที่หลากหลาย การมีส่วนร่วมของชุมชนในการประเมินผลยังช่วยสร้างความรู้สึกเป็นเจ้าของและความรับผิดชอบร่วมกันในการอนุรักษ์ภาษาถิ่น

การใช้เทคโนโลยีในการสืบทอดภาษาเย่อ

ในยุคดิจิทัลที่เทคโนโลยีเข้ามามีบทบาทสำคัญในการศึกษา โครงการนี้ได้นำเทคโนโลยีที่เหมาะสมมาใช้เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการเรียนรู้และการอนุรักษ์ภาษาเย่อ การใช้สมาร์ทโฟนและแท็บเล็ตในการบันทึกเสียงและภาพผู้เล่าเรื่องหรือผู้สูงอายุที่ใช้ภาษาเย่อในชุมชนเป็นเครื่องมือที่มีประสิทธิภาพสูง

การสร้างแอปพลิเคชันสำหรับการเรียนรู้ภาษาเย่อที่มีเกมและกิจกรรมโต้ตอบช่วยให้การเรียนรู้เป็นไปอย่างสนุกสนานและน่าสนใจ แอปพลิเคชันดังกล่าวสามารถปรับระดับความยากง่ายตามความสามารถของผู้ใช้ และให้ผลป้อนกลับทันทีเพื่อช่วยในการปรับปรุงการเรียนรู้

การใช้ระบบจัดการเนื้อหาการเรียนรู้ (Learning Management System) ช่วยให้ครูสามารถแบ่งปันทรัพยากรการเรียนรู้ มอบหมายงาน และติดตามความก้าวหน้าของนักเรียนได้อย่างมีประสิทธิภาพ นักเรียนสามารถเข้าถึงเนื้อหาการเรียนรู้ได้ตลอดเวลาและสามารถเรียนรู้ด้วยตนเองตามความสนใจ

การสร้างพอดแคสต์และช่องยูทูบที่มีเนื้อหาเกี่ยวกับภาษาเย่อช่วยขยายขอบเขตการเรียนรู้ออกไปนอกห้องเรียน เนื้อหาเหล่านี้สามารถเข้าถึงได้โดยคนในครอบครัวและชุมชน ทำให้การสืบทอดภาษาเป็นกิจกรรมที่ทำร่วมกันของทุกคนในสังคม

เทคโนโลยี Virtual Reality (VR) และ Augmented Reality (AR) ได้ถูกนำมาใช้ในการสร้างประสบการณ์การเรียนรู้ที่สมจริง นักเรียนสามารถ “เดินทาง” ไปยังสถานที่ต่างๆ ในอดีตและสัมผัสกับสภาพแวดล้อมที่ภาษาเย่อถูกใช้อย่างแพร่หลาย ประสบการณ์เหล่านี้ช่วยให้นักเรียนเข้าใจบริบททางประวัติศาสตร์และวัฒนธรรมได้ดีขึ้น

การใช้ปัญญาประดิษฐ์ (Artificial Intelligence) ในการวิเคราะห์การออกเสียงและให้คำแนะนำในการปรับปรุงช่วยให้นักเรียนสามารถฝึกฝนการออกเสียงได้อย่างถูกต้องแม้ในขณะที่เรียนรู้ด้วยตนเอง ระบบนี้สามารถระบุข้อผิดพลาดในการออกเสียงและให้คำแนะนำที่เฉพาะเจาะจงเพื่อการปรับปรุง

การสร้างเครือข่ายความร่วมมือกับชุมชน

ความสำเร็จของโครงการ “นักสืบน้อย ย้อนรอยภาษาถิ่น สืบสานภาษาเย่อ” ขึ้นอยู่กับการมีส่วนร่วมของชุมชนเป็นสำคัญ การสร้างเครือข่ายความร่วมมือระหว่างโรงเรียน ครอบครัว และชุมชนจึงเป็นกลยุทธ์หลักในการดำเนินโครงการ การจัดตั้งคณะกรรมการชุมชนเพื่อการอนุรักษ์ภาษาเย่อที่ประกอบด้วยผู้นำชุมชน ผู้สูงอายุที่มีความรู้เกี่ยวกับภาษา และผู้ปกครองนักเรียนช่วยในการกำหนดทิศทางและการสนับสนุนโครงการ

โครงการ “ปู่ย่าตายายเล่าเรื่อง” เป็นหนึ่งในกิจกรรมที่ได้รับการตอบรับที่ดีจากชุมชน ผู้สูงอายุจะมาเล่านิทานพื้นบ้านในภาษาเย่อให้นักเรียนฟัง พร้อมทั้งอธิบายความหมายและบริบททางวัฒนธรรม กิจกรรมนี้ไม่เพียงแต่ช่วยในการสืบทอดภาษาเท่านั้น แต่ยังสร้างสายสัมพันธ์ระหว่างคนรุ่นเก่าและรุ่นใหม่

การจัดตั้ง “ตลาดนัดภาษาเย่อ” เป็นกิจกรรมที่จัดขึ้นเป็นประจำทุกเดือน ในงานดังกล่าวจะมีการซื้อขายสินค้าโดยใช้ภาษาเย่อเป็นหลัก มีการแสดงศิลปะและวัฒนธรรมท้องถิ่น และมีการประกวดการใช้ภาษาเย่อในรูปแบบต่างๆ กิจกรรมนี้ช่วยสร้างสภาพแวดล้อมที่สนับสนุนการใช้ภาษาเย่อในชีวิตประจำวัน

โครงการ “ครูภาษาเย่อชุมชน” เป็นการฝึกอบรมผู้ที่มีความรู้เกี่ยวกับภาษาเย่อในชุมชนให้มีทักษะในการสอน ครูภาษาเย่อชุมชนเหล่านี้จะช่วยสนับสนุนการเรียนการสอนในโรงเรียนและจัดกิจกรรมการเรียนรู้ในชุมชนเพิ่มเติม

การสร้าง “ห้องสมุดภาษาเย่อ” ในชุมชนโดยรวบรวมหนังสือ เทป เซดี และสื่อการเรียนรู้ต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับภาษาเย่อ ห้องสมุดนี้เป็นแหล่งเรียนรู้ที่เปิดให้บริการแก่ทุกคนในชุมชนและเป็นศูนย์กลางในการแลกเปลี่ยนความรู้เกี่ยวกับภาษาและวัฒนธรรมท้องถิ่น

สามารถดาวน์โหลด เผยแพร่ผลงานวิชาการ แบบรายงานวิธีการปฏิบัติที่เป็นเลิศ (Best Practice) ปีการศึกษา 2567 เรื่อง นักสืบน้อย ย้อนรอยภาษาถิ่น สืบสานภาษาเยอ ตามลิงก์ข้างล่างนี้ครับ

ตัวอย่างไฟล์เอกสาร

แบบรายงานวิธีการปฏิบัติที่เป็นเลิศ (Best Practice)
แบบรายงานวิธีการปฏิบัติที่เป็นเลิศ (Best Practice)

ขอบคุณแหล่งที่มา : โรงเรียนบ้านหนองระเวียง สพป.มหาสารคาม เขต 2

By admin

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ห้ามพลาด